( items)

View cart

Shopping Cart

Product
SubTotal
Estimated shipping

Total

* จัดส่งฟรีทั่วประเทศ เมื่อซื้อครบ 900 บาทขึ้นไป

Shipping Address

Customer Information

Payment

Select a Payment

Finish

Bill Payment
Payment Paypal

วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2558

เรื่องน่ารู้ของน้ำมันรำข้าว และน้ำมันจมูกข้าว

เรื่องน่ารู้ของน้ำมันรำข้าว และน้ำมันจมูกข้าว



  • เมล็ดข้าวที่กะเทาะเปลือกออกแล้วประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ


1. จมูกข้าว (ส่วนปลายแหลมของเมล็ดข้าว)
2. รำข้าว (เยื่อสีน้ำตาที่ห่อหุ้มเมล็ดข้าว)
3. ข้าวสาร (เนื้อเมล็ดข้าวที่มีลักษณะเป็นแป้งสีขาว)




โอรีซา-อี

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันจมูกข้าวและน้ำมันรำข้าวผสมน้ำมันจมูกข้าวสาลีและวิตามินอี ชนิดแคปซูล ตรา กิฟฟารีน
ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล น้ำมันจมูกข้าว 330 มก. น้ำมันรำข้าว 100 มก. น้ำมันจมูกข้าวสาลี 100 มก. แอลฟา –โทโคเฟอริล อะซิเตต 2.1 มก. ใน 1 แคปซูล ให้แกมมา-โอรีซานอล 11.7 มก. กรดโอเลอิก 206.2 มก. กรดไลโนเลอิก 207 มก. และวิตามินอีในรุปโทโคเฟอรอล และโทโคไทอีนอล 1.5 มก.
วิธีรับประทาน : วันละ 1-2 แคปซูล พร้อมอาหาร
คำเตือน : อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค
ฆอ. 2642/2552
ขนาด 60 แคปซูล

ราคา 560 บาท
ราคาสมาชิก 420 บาท


เนื้อเมล็ดข้าวสีขาวเกือบทั้งหมดเป็นแป้งและน้ำตาล แต่สาระสำคัญอีกจำนวนมากจะมีอยู่ที่จมูก
และรำข้าว เมื่อนำมาสกัดด้วยกรรมวิธีแล้ว จะได้ผลิตภัณฑ์น้ำมันจากข้าวได้แก่ น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil) และน้ำมันจมูกข้าว (Rice Germ Oil)
  • ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์น้ำมันจากข้าว
ทั้งน้ำมันรำข้าว(Rice Bran Oil) และน้ำมันจมูกข้าว (Rice Germ Oil) ส่วนประกอบหลักดังนี้
- กรดไขมันไม่อิ่มตัว ชนิดไลโนเลอิก (Linoleic) และกรดโอเลลิก (Oleic) ในน้ำมันรำข้าวและจมูกรำ
ข้าวจะไม่มีโคเรสเตอรอล ซึ่งโดยปกติในพืชและผลิตภัณฑ์จากพืชทุกชนิดจะไม่มีโคเรสเตอรอล นอกจากนี้ยังพยกรดไขมันไม่อิ่มตัวไลโนเลนิก (Linoleic) อยู่ด้วย
- สารประกอบที่ละลายในไขมัน ได้แก่ สารพวกไฟโตสเตอรอล (Phytosterol) สารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ เช่น โอรีซานอล (Oryzanol) และสารกลุ่มวิตามินอี ได้แก่ โทโคเฟอรอล (Tocopherol) และโทโคไตรอีนอล (Tocotrienol)
  • กรดไลโนเลอิก
เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated fatty acid, PUFA) มีฤทธิ์ในการลดโค
เรสเตอรอลและแอลดีแอล โคเลสเตอรอล (LDL-Cholesterol) cแอลดีแอล-โคเรสเตอรอลเป็นโค
เรสเตอรอลชนิดไม่ดี ที่มีส่วนทำให้เกิดการอุดตันในผนังหลอดเลือดแดง นอกจากนี้กรดไลโนเลอิกยังเป็น
สารตั้งต้นในการสังเคราะห์กรดไขมันสายยาวในกลุ่มโอเมกา 6 ที่ใช้เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ที่
สำคัญ ได้แก่ เซลล์สมองและเซลล์ประสาท
  • กรดโอเลอิก หรือ กรดไขมันโอเมก้า 9
เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated fatty acid, MUFA) ช่วยลดแอลดีแอล-โค
เรสเตอรอล แต่จะเพิ่มเอซดีแอล-โคเรสเตอรอล (HDL-Cholesterol) ซึ่งเป็นโคเรสเตอรอลชนิดที่ดี ที่จะช่วยพาโคเรสเตอรอลในเซลล์และในกระแสเลือดไปเผาผลาญ ป้องกันเส้นเลือดตีบได้ ลดการอุดตันในผนังหลอดเลือก เช่นเดียวกับกรดไขมันไลโนเลอิก
น้ำมันรำข้าวและน้ำมันจมูกข้าว ยังมีงานวิจัยโดยตรงที่เชื่อถือได้ในคน คือ เป็นงานวิจัยแบบมีกลุ่ม
ควบคุม (Randomized Controlled Trial) ในผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง ผลการวิจัยพบว่าสามารถลดไขมันโคเสเตอรอล และแอลดีแอล-โคเรสเตอรอลได้จริง(อ้างอิงที่ 1)
  • กรดไลโนเลอิก
เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated fatty acid, PUFA) เป็นสารตั้งต้นในการ
สังเคราะห์กรดไขมันสายยาวในกลุ่มโอเมก้า 3 ที่ใช้เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ที่สำคัญได้แก่ เซลล์
สมอง และเซลล์ประสาท
  • โอรีซานอล และสารกลุ่มวิตามิน อี
น้ำมันรำข้าวและน้ำมันจมูกข้าว ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ เช่น สารกลุ่มวิตามินอี (โทโคเฟ
อรอล และโทโคไตรอีนอล) และโอรีซานอล โดยเฉพาะโอรีซานอลจะมีอยู่แต่มนน้ำมันจากข้าวเท่านั้น และมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระแรงกว่าสารกลุ่มวิตามินอี ทั้งโอรีซานอลและโทโคไตรอีนอล มีผลในการลดระดับโคเลสเตอรอลโคยตรง โดยที่โอรีซานอลช่วยลดการดูดซึมโครเลสเตอรอลจากอาหาร ขณะที่โทโคไตรอีนอลขัดขวางการสังเคราะห์โคเลสเตอรอลในร่างกาย นอกจากนี้ทั้งโอรีซานอลและสารกลุ่มวิตามินอี จะลดการเกิดออกซิไดซ์แอลดีแอล (Oxidised LDL) ลดการเกิดหลอดเลือดแข็ง และลดการเกิดโคเลสเตอรอลออกไชด์ เมื่อร่างกายได้รับเลสเตอรอลออกไซด์น้อย จะลดการทำลายเซลล์ภายในหลอดเลือด ลดการสะสมพล๊าค (Plaque) หรือตะกอนในผนังหลอดเลือด
  • ไฟโตสเตียรอล
น้ำมันรำข้าวและน้ำมันจมูกข้าว ยังมีสารประกอบกลุ่มไฟโตสเตียรอล ซึ่งไฟโตสเตียรอลหลายชนิด
จะช่วยลดการดูดซึมโคเลสเตอรอลอีกทางหนึ่ง (อ้างอิงที่ 2,3)
เอกสารอ้างอิง
1.Similar cholesterol-lowering properties of rice bran oil, with varied gamma-oryzanol, in mildly hypercholesterolemic men.
2.นัยนา บุญทวียุวัฒน์ และเรวดี จงสุวัฒน์. น้ำมันรำข้าวทางเลือกเพื่อสุขภาพของคนไทย. กรุงเทพฯ: โอนเดียนสโตร์, 2454. 64 หน้า
3.ไขมันในเลือด Cholesterol, triglyceride, HDL, LDL., สภาเทคนิคการแพทย์: The Medical Technology Councill.http://www.mtcouncill.org/publicpage.php-id=9.htm

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2558

เวย์โปรตีน Whey protein สุดยอดโปรตีนคุณภาพ สร้างเสริมเนื้อเยื้อกล้ามเนื้อในร่างกายได้อย่างรวดเร็ว

เวย์โปรตีน  นั้นมีต้นกำเนินมากจากในอดีตเมื่อ มีการนำนมมาทำเป็นเนยแข็ง (cheese) โดยกรรมวิธีที่ทำให้นมวัวตกตะกอนได้เป็นก้อนเหนียวๆ ที่เรียกว่า curd นำไปทำเนยแข็ง จะมีส่วนของเหลวที่เป็นกากเหลือเอาไว้ ชาวบ้านจึงนำเอาไปเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย ซึ่งวัวควาย ที่ ถูกเลี้ยงด้วยกากนมนั้นมีการเจริญเติบโตมากกว่า



             ในเวลาต่อมาจึงมีคนนำเอากากนมนั้นไปทำการวิจัย ซึ่งพบว่ากากนมที่เหลือทิ้งนั้น มีโปรตีนที่มีคุณภาพสูงมาก ซึ่งมากกว่าบรรดาอาหารธรรมชาติทั่วๆ ไป และโปรตีนที่ได้จากกานมนั้น ร่างกายสามารถนำโปรตีนไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว สามารถนำเอาโปรตีนทั้ได้ไปใช้ซ่อมแซมและเสริมสร้างเนื้อเยื่อใน ร่างกายได้ดี และโปรตีนชนิดย่อยๆ หลายชนิดในของเหลวนี้มีคุณสมบัติพิเศษต่างหากด้วยเช่น ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย ช่วยต่อต้านการติดเชื้อ ช่วยต่อต้านมะเร็ง ฯลฯ

             จึงได้มีการหันมาผลิตของเหลวนี้อย่างจริงจังเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่เพียงเก็บของเหลือใช้จากการผลิตเนยแข็งมาจำหน่าย และในปัจจุบันได้พัฒนาไปถึงขั้นมีการผลิตแยกโปรตีนชนิด ย่อยๆ ที่มีคุณสมบัติพิเศษต่างๆ ดังกล่าวแล้วออกมาเป็นตัวๆ ไปด้วย ของเหลวที่แต่แรกเป็นของเหลือใช้จากการผลิตเนยแข็งแล้วต่อมาพบว่าเป็นของที่ มีคุณค่ายิ่งนี้ก็คือเวย์ (Whey) และโปรตีนอันมีคุณค่าสูงที่มีอยู่ในเวย์นี้ก็คือเวย์โปรตีน (Whey Protein)


  • เวย์โปรตีนเข้มข้น (Whey protein concentrate) คือโปรตีนคุณภาพสูงสุด ตามข้อกำหนดของ FAO และ WHO
  • โปรตีนคุณภาพสูงสุด พบเป็นส่วนน้อยของโปรตีนในนม ในนม 1 ลิตร จะมีเวย์โปรตีนเพียง 6 กรัม เท่านั้น
  • เวย์โปรตีนเข้มข้น ยังให้คุณประโยชน์ต่อสุขภาพโดยที่โปรตีนจากแหล่งอื่นให้ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น โปรตีนจากนม,ไข่,ไก่,เนื้อ,หมู,ปลา,ถั่ว ฯ

เวย์โปรตีน (Whey protein)  สร้างผลลัพธ์มหัศจรรย์กับองค์กรชั้นนำทั่วประเทศ ขจัดปัจจัยเสี่ยงทุกด้าน ที่จะนำไปสู่โรควิถีชีวิตกว่า 100 โรคได้

คุณประโยชน์ต่อสุขภาพของเวย์โปรตีน

  • ช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อได้ดีกว่าโปรตีนทุกชนิด
  • ช่วยลดไขมัน เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ โดยไม่ต้องควบคุมอาหาร
  • ช่วยเพิ่มขนาดของเส้นใยมวลกล้ามเนื้อ การมีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้น และแข็งแกร่งจะชลอความแก่
  • ช่วยให้อิ่มง่าย อิ่มนาน ลดความหิวระหว่างมื้อได้ดี
  • ช่วยลดความเมื้อยล้าของกล้ามเนื้อ ช่วยให้ใช้แรงต่อเนื่องได้นาน
  • เวย์โปรตีนเข้มข้น ร่วมกับแคลเซียม จะช่วยลดความดันโลหิตในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
  • ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง เบาหวาน ติดเชื้อฯ
  • ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในคนไข้เบาหวาน
  • ช่วยลดโคเลสเตอรอลรวม ลดไตรกลีเซอร์ไรด์ ลดไขมันชนิดเลว LDL
  • ช่วยเพิ่มไขมันชนิดดี HDL
  • ช่วยเพิ่มการสร้างกลูต้าไธโอนซึ่งมีบทบาทสำคัญที่สุดในการต้านอนุมูลอิสระ ขจัดสารพิษ เสริมภูมิต้านทาน
  • เวย์โปรตีนเข้มข้น มีเอนไซด์ 2 ชนิด คือ ที่ช่วยยับยั้งความอยากอาหาร คือCholecystokinin (CCK)  และ Glucagon-likepepitde-1 (GLP-1) จึงช่วยในการควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ



แนวทางโภชนาการ
“อาหารพลังงานสะอาด” จาก Deep Marine Whey
ร่างกายจำเป็นต้องได้รับพลังงานจากอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน เพื่อนำพลังงานเหล่านี้มาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่ถ้าร่างกายได้รับพลังงานจากอาหารเกินความจำเป็นหรือมากกว่าความต้องการของร่างกาย พลังงานเหล่านี้ก็จะถูกเก็บสะสมไว้ในรูปของไขมันตามเนื้อเยื่อต่างๆ ทำให้รูปร่างดูอ้วนไม่สมส่วน โดยภาวะอ้วนจะส่งผลเสียต่อร่างกายหลายประการ ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเฉียบพลัน และโรคเรื้อรังต่างๆ อันได้แก่ โรคเบาหวาน มะเร็ง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต ภูมิคุ้มกันต่ำ ข้อเสื่อม สมองเสื่อม เป็นต้น

การดูแลรูปร่างโดยทั่วไป จึงเน้นการควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวันให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่ในความเป็นจริงแม้ในอาหาร

ที่มีแคลอรี่เท่ากัน อาจทำให้เกิดภาวะอ้วนได้ต่างกัน เพราะอาหารที่มาจากพลังงานสกปรก จะเผาผลาญได้ไม่ดีเท่ากับ อาหารที่มาจากพลังงานสะอาด ดังนั้น การเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณภาพหรืออาหารพลังงานสะอาดในปริมาณที่เหมาะสม จึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการควบคุมน้ำหนักและดูแลรูปร่างให้ดูดีอยู่เสมอนั่นเอง

ทำความรู้จักกับ “อาหารพลังงานสะอาด”

“อาหารพลังงานสะอาด” คือ อาหารที่รับประทานแล้วร่างกายสามารถนำไปเผาผลาญได้มาก และสะสมเป็นพลังงานในรูปไขมันได้น้อย ซึ่งแตกต่างจาก

“อาหารพลังงานสกปรก” ที่ร่างกายมักเก็บสะสมในรูปไขมันมากกว่าเผาผลาญ ทำให้ไขมันสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นำไปสู่ภาวะอ้วน

แนวทางโภชนาการ “อาหารพลังงานสะอาด” ตามหลักการของ Deep Marine Whey คือ การบริโภคอาหารพลังงานสะอาดคุณภาพสูงในปริมาณ

ที่พอเหมาะ ร่วมกับการออกกำลังกาย โดยแหล่งของอาหารพลังงานสะอาดมาจาก คาร์โบไฮเดรตที่ดี โปรตีนคุณภาพชั้นเลิศ และไขมันที่มีประโยชน์

คาร์โบไฮเดรตที่ดี (Good Carbohydrateเช่น ธัญพืชไม่ขัดสีหลากหลายสายพันธุ์

มีคุณสมบัติที่สำคัญคือ

• มีดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low GI) เพราะมีโครงสร้างที่ซับซ้อน ทำให้ย่อยและดูดซึมได้ช้า จึงเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดเพียงเล็กน้อยภายหลังรับประทาน ทำให้ร่างกายหลั่งอินซูลินออกมาน้อย ลดโอกาสการดื้อต่ออินซูลิน ส่งผลดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน และลดภาระการทำงานของตับอ่อนในการหลั่งอินซูลินอีกด้วย และที่สำคัญ จะช่วยลดการสร้างไขมันใหม่ ลดการสะสมไขมันส่วนเกิน จึงช่วยลดและควบคุมน้ำหนักได้

โปรตีนคุณภาพชั้นเลิศ (High Quality Protein) เช่น เวย์โปรตีนเข้มข้นผสมคอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก

มีคุณสมบัติที่สำคัญคือ

• มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนในปริมาณสูง ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดี ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระและเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดสารพิษได้ดีขึ้น อีกทั้งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

• มีกรดอะมิโนชนิดกิ่ง (Branch Chain Amino Acids) ที่ช่วยในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และสลายไขมันสะสม

• มีกรดอะมิโนชนิดที่มีส่วนสำคัญในการผลิตกลูต้าไธโอนของร่างกาย จึงมีส่วนช่วยในการเพิ่มระดับของกลูต้าไธโอนในกระแสเลือด

ไขมันที่มีประโยชน์ (Healthy Fat) เช่น น้ำมันคาโนล่า

มีคุณสมบัติที่สำคัญคือ

• มีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำมาก

• มีสัดส่วนของกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 ต่อ และ โอเมก้า 6 ที่สมดุลกัน

• มีกรดไขมันโอเมก้า 9 สูง โดยน้ำมันคาโนล่าถือเป็นน้ำมันที่มีสัดส่วนของกรดไขมัน กลุ่มโอเมก้า 3:6:9 เหมาะสมที่สุด

สรุปประโยชน์ของการบริโภคอาหารพลังงานสะอาด มีดังนี้

• ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสมตลอดวัน

• ลดบทบาทของฮอร์โมนอินซูลิน เพิ่มการทำงานของฮอร์โมนไทรอยด์

• ลดการสร้างไขมันใหม่ เพิ่มการเผาผลาญไขมันเก่าที่สะสมมานาน

• เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ

• เพิ่มภูมิคุ้มกัน

• เพิ่มประสิทธิภาพการเสริมสร้างซ่อมแซมร่างกาย

• รูปร่างสวย สุขภาพดี

ดังนั้น การบริโภคอาหารพลังงานสะอาด ถือเป็นอีกทางเลือกที่ทรงประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการลดและควบคุมน้ำหนัก พร้อมทั้งสร้างสุขภาพ

ความงาม ความอ่อนเยาว์ รวมทั้งบำบัดโรคและเสริมสุขภาพเพื่อคนทุกเพศ ทุกวัย

สาระน่ารู้ เกี่ยวกับวัฏจักรของแป้ง และค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic index (GI))

โดยปกติเมื่อคนเรารับประทานอาหารจำพวกแป้งเข้าไป ร่างกายจะย่อยแป้งเป็นน้ำตาลกลูโคส และดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด

เมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น จะกระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่งอินซูลินเพื่อนำน้ำตาลกลูโคสไปใช้เป็นพลังงาน พร้อมเก็บสะสมในรูปไกลโคเจนไว้ในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย

ค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic index (GI) ) เป็นหน่วยวัดผลของคาร์โบไฮเดรตต่อระดับน้ำตาลในเลือด

ค่า GI จะแบ่งได้ดังนี้

อาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ (มีค่า GI ระหว่าง 0-55 ) ได้แก่ แป้งจากธัญพืช ใยอาหาร มอลติตอล

อาหารที่มีดัชนีน้ำตาลระดับกลาง (มีค่า GI ระหว่าง 56-69) ได้แก่ ข้าวกล้อง อาหารเส้น

อาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง (มีค่า GI ระหว่าง 70-100) ได้แก่ ข้าวขัดสี ขนมปังขาว ข้าวเหนียว

หลังจากที่รับประทานอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต เช่น แป้งหรือน้ำตาล ร่างกายจะเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาลกลูโคสและถูกดูดซึม

เข้าสู่กระแสเลือดโดยอาหารที่มีค่า GI ต่ำจะถูกย่อยอย่างช้าๆ ทำให้น้ำตาลกลูโคสถูกปล่อยเข้าไปในกระแสเลือดอย่างช้าๆ ระดับน้ำตาลในเลือดจึงเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างช้าๆ ตับอ่อนจึงหลั่งอินซูลินในปริมาณไม่สูง ทำให้ดึงน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เซลล์และเก็บสะสมเป็นไขมันได้ต่ำ ดังนั้น จึงควรเลือกรับประทานอาหารที่มีค่า GI ต่ำ (น้อยกว่า 55) โดยรับประทานบ่อยมื้อ มื้อละน้อยๆ เพื่อลดบทบาทของอินซูลินในการนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ จึงลดการกระตุ้นการสร้างและสะสมไขมันใหม่ได้อีกทางหนึ่ง




เวย์ มารีน โยเกิร์ต



เครื่องดื่มโยเกิร์ตชนิดผง ผสมเวย์โปรตีนและคอลลาเจนรสชาติแสนอร่อย มีส่วนผสมของโยเกิร์ตชนิดผงคุณภาพสูง (วัตถุดิบคุณภาพจากประเทศฝรั่งเศส) ให้จุลินทรีย์ (Pro-biotic) ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

เวย์ มารีน โกโก้




เครื่องดื่มเวย์โปรตีนชนิดผง ผสมคอลลาเจน รสโกโก้รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นโกโก้

เวย์ มารีน วานิลลา





เครื่องดื่มเวย์โปรตีนชนิดผง ผสมคอลลาเจน รสวานิลลารสชาติกลมกล่อม หอมละมุนด้วยกลิ่นวนิลา

ซุปกึ่งสำเร็จรูป เสริมเวย์โปรตีนเข้มข้น ผสมคอลลาเจน




รสข้าวโพด

รสเห็ดชิทาเกะ

ขนมปังธัญพืชรวม เวย์ มารีน คาโนล่า






เวย์ มารีน คาโนล่า มัลติสีด เบรด คิวบ์

เวย์ มารีน คาโนล่า มัลติสีด เบรดบัน

เวย์ มารีน คาโนล่า มัลติสีด มันฟิน รสชินนามอน

เวย์ มารีน คาโนล่า มัลติสีด มันฟิน รสช็อกโกแลต


ผลิตภัณฑ์ทาหน้าขนมปัง




เติมคุณค่าสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ พร้อมความอร่อย เพิ่มรสชาติให้กับอาหารมื้อโปรด

เวย์ มารีน คาโนล่า มัลติ สีด เบรดสติ๊ก





ขนมปังธัญพืชรวมชนิดแท่ง ผสมเวย์โปรตีน,โคลีน,คอลลาเจน และน้ำมันคาโนล่า


เวย์ มารีน คุกกี้








วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2558

กิฟฟารีน วีทกราส

กิฟฟารีน วีทกราสเครื่องดื่มใบอ่อนข้าวสาลี ชนิดผง




กิฟฟารีน วีทกราส

เครื่องดื่มใบอ่อนข้าวสาสีชนิดผง ตรากีฟฟารีน
วีทกราส (Wheatgrass)   เป็นต้นอ่อนของข้าวสาลี  มีประวัติการใช้มาอย่างยาวนานกว่า 5,000 ปีมาแล้วตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ ซึ่งใช้ในด้านการบำรุงสุขภาพและเป็นยาอายุวัฒนะ โดยน้ำคั้นจากต้นอ่อนข้าวสาลีได้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มอาหาร Raw Food Diet คือ อาหารตามธรรมชาติที่ไม่ผ่านการแปรรูป หรือมีการปนเปื้อนจากเคมี  ที่อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโนหลากหลายชนิดที่ร่างกายสามารถนำไปใช้งานได้ในทันที และยังอุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์และสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่มีประโยชน์ในการกำจักสารพิษ ชะล้างลำไส้ ดูแลระบบทางเดินอาหาร และช่วยต้านการเกิดมะเร็งรวมทั้ง บำรุงเลือด ซึ่งดีต่อผู้ป่วยโลหิตจางและทาลัสซีเมีย

- อุดมไปด้วยวิตามิน เอนไซม์ ซึ่งร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้ในทันที
- มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ   ลดความเสี่ยงจากสารก่อมะเร็งต่างๆ
- ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น ช่วยชะล้างสารพิษออกจากร่างกาย
- ช่วยการรักษา และบรรเทาอาการท้องผูกโดยเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้
- ต้านแผลในกระเพาะอาหารและบรรเทาภาวะลำไส้แปรปรวน (IBS) เนื่องจากคุณสมบัติต้านอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และการสมานแผลของคลอโรฟิลล์ และฟลาโวนอยด์ จึงป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหารได้อีกทางหนึ่งด้วย
- ป้องกันการเกิดภาวะโลหิตจาง ช่วยเพิ่มระดับฮีโมโกลบิน ช่วยยืดระยะเวลาการถ่ายเลือดออกไป และช่วยลดปริมาณเลือด ที่ใช้ในการถ่ายเลือด รวมถึงช่วยลดจำนวนครั้งในการถ่ายเลือดลงได้ในคนไข้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย
เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ
ขนาดบรรจุ 10 ซอง (15 กรัม/ซอง)
ราคา 340 บาท

สาระน่ารู้

วีทกราส (Wheat grass) ต้นอ่อนข้าวสาลี
วีทกราส (Wheat grass) เป็นต้นอ่อนของข้าวสาลี มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Triticum aestivum มีประวัติการใช้มาอย่างยาวนานกว่า 5,000 ปีมาแล้วตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ ซึ่งใช้ในด้านการบำรุงสุขภาพ และเป็นยาอายุวัฒนะ การศึกษาในด้านพฤกษเคมี (Phytochemical) พบว่า น้ำวีทกราสนี้มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และอุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ กรดอะมิโน หลายชนิด รวมถึงคลอโรฟิลด์ด้วย



มีการใช้น้ำวีทกราสในการรักษาโรคต่างๆที่เกี่ยวกับกระเพาะและลำไส้มานานกว่า 30 ปีแล้ว และมีงานวิจัยเชิงทดลองแบบมีกลุ่มควบคุม

ที่ทำเกี่ยวการศึกษากับโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ (Ulcerative Colitis) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดเฉพาะบริเวณลำไส้ใหญ่เท่านั้น โดยในระยะเฉียบพลันของโรค ผู้ป่วยจะมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง ถ่ายปนมูกหรือเลือดสด อาการแสดงขึ้นอยู่กับความรุนแรงและตำแหน่งของการอักเสบ หากเกิดที่ลำไส้ใหญ่ส่วนปลายสุด จะมีอาการปวดถ่ายตลอดเวลา การวิจัยนี้ทดลองคนไข้ โดยดื่มน้ำวีทกราส วันละ 100 มิลลิลิตร ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 เดือน พบว่า ช่วยบรรเทาอาการโดยรวมของโรคให้ดีขึ้น ลดความรุนแรงของการถ่ายเป็นเลือด และจำนวนครั้งของการบีบตัวของลำไส้ได้อย่างมีนัยสำคัญ

ในการศึกษาเกี่ยวกับผู้ป่วยที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย (Thalassemia) ซึ่งเป็นโรคความผิดปกติทางพันธุกรรมของเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดอาการโลหิตจาง

มีงานวิจัยที่ทำกับผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคธาลัสซีเมียในระดับรุนแรงจำนวน 40 คน โดยให้รับประทานวีทกราสชนิดเม็ด พบว่า มีศักยภาพที่จะเพิ่มระดับฮีโมโกลบิน ช่วยยืดระยะเวลาการถ่ายเลือดออกไป และยังช่วยลดจำนวนเลือดที่ใช้ในการถ่ายเลือดด้วย อีกงานวิจัยหนึ่ง พบว่า การให้คนไข้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมียในระดับรุนแรง ดื่มน้ำวีทกราส 100 มิลลิลิตร ทุกวัน เป็นระยะเวลา 1 ปี ช่วยลดปริมาณเลือดที่ใช้ในการถ่ายเลือด รวมถึงช่วยลดจำนวนครั้งในการถ่ายเลือดลงอีกด้วย

นอกจากนี้น้ำวีทกราสยังป้องกันการเกิดภาวะโลหิตจาง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการได้รับเคมีบำบัดได้ดี โดยพบว่าในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม

ที่ดื่มน้ำวีทกราส วันละ 60 มล. ตลอดระยะเวลาการได้รับเคมีบำบัด ทั้ง 3 รอบ ช่วยป้องการเกิดภาวะโลหิตจาง (anemia) ได้ดี มีผลเพิ่มปริมาณฮีโมโกลบินในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่มีผลต่อการตอบสนองการได้รับการรักษาจากเคมีบำบัดของผู้ป่วย และการศึกษาในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งที่อวัยวะต่างๆ ที่ดื่มน้ำวีทกราส วันละ 30 มล. ติดต่อกัน 6 เดือน พบว่าช่วยเพิ่มปริมาณฮีโมโกลบิน เกล็ดเลือด และเพิ่มภูมิต้านทานได้ดี ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

การศึกษาฤทธิ์อื่นที่น่าสนใจ เช่น ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในอาสาสมัครที่ได้รับสารก่ออนุมูลอิสระ BPA (biphenol-A) ผ่านทางสิ่งแวดล้อม

เมื่อให้ดื่มวีทกราส วันละ 100 มล. ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ พบว่าปริมาณสาร BPA ในปัสสาวะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยแนวโน้มการลดลงของ BPA สัมพันธ์กับระยะเวลาที่ดื่มวีทกราส

ปัจจุบัน มีการพัฒนาวีทกราสขึ้นมาในรูปเครื่องดื่มชนิดชงละลายทันที เพื่อความสะดวกของผู้บริโภค มีการเสริมคุณประโยชน์เพิ่มเข้าไป

โดยผสมสารอาหารต่างๆที่มีประโยชน์เข้าไป เช่น วิตามิน ใยอาหารอินนูลิน ผักและผลไม้รวม ชาเขียว เพื่อเสริมคุณค่าของผลิตภัณฑ์ให้มากยิ่งขึ้น จะเห็นได้ว่าวีทกราสในรูปเครื่องดื่มชนิดชง มีประโยชน์หลากหลาย ทั้งในแง่ของการเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดแดงในผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจาง ป้องกันการเกิดอันตรายจากอนุมูลอิสระ และรักษาอาการลำไส้อักเสบ โดยไม่พบความเป็นพิษหรืออาการข้างเคียงใดๆ

แต่อย่างไรก็ตามควรระมัดระวังการใช้ในเด็กอ่อน หรือสตรีมีครรภ์ เนื่องจากยังไม่มีรายงานด้านความปลอดภัย อีกน้ำวีทกราสจะมีกลิ่นเหม็นเขียว

คล้ายหญ้า จึงอาจกระตุ้นให้เกิดการคลื่นไส้อาเจียนในผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นดังกล่าวได้

เอกสารอ้างอิง
1. Multitude potential of wheatgrass juice (Green Blood): An overview. Chronicles Young Scientists 2010;1(2):23-8
2. Wheat Grass. The Nutraceutical Garden: The Grains & Legumes Component. http://horticulturecenter.illinoisstate.edu/gardens/documents/grain.pdf
3. Phytochemical screening and analysis of antioxidant properties of aqueous extract of wheatgrass. Asian Pac J Trop Med. 2014 Sep;7S1:S398-404. doi: 10.1016/S1995-7645(14)60265-0
4. Wheat grass juice in the treatment of active distal ulcerative colitis: a randomized double-blind placebo-controlled trial. Scand J Gastroenterol. 2002 Apr;37(4):444-9
5. Inflammatory Bowel Disease (IBD). โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์. https://www.bumrungrad.com/th/digestive-diseases/inflammatory-bowel-disease-ibd
6. ธาลัสซีเมีย (Thalassemia). ศูนย์ข้อมูลโรคติดเชื้อและพาหะนำโรค. http://webdb.dmsc.moph.go.th/ifc_nih/a_nih_1_001c.asp?info_id=403
7. Effect of wheat grass tablets on the frequency of blood transfusions in Thalassemia Major. Indian J Pediatr. 2010 Jan;77(1):90-1. doi: 10.1007/s12098-010-0002-8. Epub 2010 Feb 5
8. Wheat grass juice reduces transfusion requirement in patients with thalassemia major: a pilot study. Indian Pediatr. 2004 Jul;41(7):716-20
9. วีทกราส น้ำคั้นจากต้นอ่อนข้าวสาลี .กนกพร อะทะวงษา สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/125
10. 10 Wheat grass supplementation decreases oxidative stress in healthy subjects: a comparative study with spirulina. J Altern Complement Med. 2007;13(8):789-91.

ถั่งเช่า

ถั่งเช่า

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ถั่งเช่า ผสมวิตามินซี ชนิดแคปซูล



ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ถั่งเช่า ผสมวิตามินซี ชนิดแคปซูล (ตรากิฟฟารีน)

ถั่งเช่า พบได้เฉพาะในแถบภูเขาสูงของจีน ทิเบต เนปาลและภูฏาน ถือเป็นยาสมุนไพรที่ใช้มาอย่างแพร่หลายในประเทศจีนและชาวเอเชีย มีสรรพคุณเป็นยาช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงปอด บำรุงไต บำรุงกำลัง แก้อาการอ่อนเพลีย บำรุงได้ทั้งธาตุหยิน-หยาง และเสริมสมรรถภาพทางเพศสำหรับเพศชาย ได้เป็นอย่างดี

- ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ

- เพิ่มจำนวนของสเปิร์มในอสุจิ เพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิได้ สูงขึ้น

- กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

- มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระและต้านมะเร็ง

- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน และ สามารถใช้ควบคู่ไปกับการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบัน

- ช่วยทำให้การทำงานของไตมีประสิทธิภาพดีขึ้น ในผู้ป่วยภาวะไตวายเรื้อรัง และ ช่วยลดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่เกิดจากภาวะไตวาย

เหมาะกับ : ผู้ชายที่ต้องการบำรุงร่างกายและมีปัญหาในเรื่องสมรรถภาพทางเพศ

วิธีรับประทาน :  รับประทาน วันละ 3-5 แคปซูล  ก่อนอาหาร หรือก่อนนอน

ขนาด 20 แคปซูล
ราคา 760 บาท

สาระน่ารู้เกี่ยวกับถั่งเช่า

ถั่งเช่า (Chong Cao) หรือที่รู้จักกันว่า ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย ถือว่าเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงของชาวเอเชีย ด้วยคุณสมบัติที่ให้ผลเรื่องการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศอันมีชื่อเสียงโด่งดัง อาจเรียกในชื่ออื่นได้อีกว่า ตังถั่งเช่า หรือ ตังถั่งแห่เช่า ...

สาระน่ารู้เกี่ยวกับถั่งเช่า
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cordyceps sinensis (Berk.) Sacc. (อ้างอิงที่ 3)
ถั่งเช่า (Chong Cao) หรือที่รู้จักกันว่า ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย ถือว่าเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงของชาวเอเชีย ด้วยคุณสมบัติที่ให้ผลเรื่องการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศอันมีชื่อเสียงโด่งดัง อาจเรียกในชื่ออื่นได้อีกว่า ตังถั่งเช่า หรือ ตังถั่งแห่เช่า
ชื่อสมุนไพร : ถั่งเช่า หรือ ตังถั่งแห่เช่า
ชื่อสามัญ (ชื่อภาษาอังกฤษ) :Chong cao, Dong chong xia cao
ชื่ออื่น : ถั่งเช่า, หนอนเทวดา, ตังถั่งแห่เช่า, เห็ดถั่งเช่า, หญ้าหนอน



“ถั่งเช่า” หรือ “เห็ดถั่งเช่า” ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นตัวหนอนของผีเสื้อค้างคาวที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hepialus armoricanus

Oberthiir และส่วนที่เป็นเห็ดซึ่งอยู่บนตัวหนอนที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cordyceps sinensis (Berk.) Sacc. โดยสปอร์ของเห็ดเจริญเป็นเส้นใยบนตัวอ่อนของหนอนผีเสื้อค้างคาวที่กำลังจำศีลอยู่ใต้ดินในฤดูหนาว อาศัยสารอาหารและแร่ธาตุจากตัวหนอน เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ เห็ดจะเจริญงอกออกมาจากส่วนหัวของตัวหนอนที่ตายซาก มีลักษณะคล้ายกับต้นหญ้าที่งอกขึ้นมาหนึ่งต้น จากลักษณะดังกล่าวทำให้ชาวจีนเรียกถั่งเช่าว่า Chong Cao (worm-grass) ซึ่งหมายถึงหญ้าหนอน โดยเป็นคำเรียกสั้นๆของคำว่า dong chong xia cao ในขณะที่ชาวธิเบตเรียกว่า yartsa gunbu (summer-grass, winter-worm) ซึ่งหมายถึง ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า (อ้างอิงที่ 1-3)

ถั่งเช่า พบได้ในแถบทุ่งหญ้าบนภูเขา ประเทศจีน (ทิเบต) เนปาล และภูฏาน ที่ระดับความสูง 10,000-12,000 ฟุต จากระดับน้ำทะเล

การเก็บถั่งเช่าจะเก็บในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ เมื่อขุดตัวหนอนขึ้นจากดินแล้ว ล้างน้ำให้สะอาด แล้วตากแห้ง การเก็บรักษา ควรเก็บไว้ในที่แห้ง

ถั่งเช่ามีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศจีนมานานนับศตวรรษ ตำราแพทย์แผนจีนกล่าวว่า ถั่งเช่ามีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น

ส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศ ช่วยให้อสุจิแข็งแรง บำรุงให้สตรีมีบุตรง่าย ปรับประจำเดือนให้สมดุล บำรุงร่างกาย บำรุงอวัยวะภายใน เช่น ปอด ตับ และไต เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ ชาวจีนจึงนิยมนำถั่งเช่ามาปรุงอาหารเพื่อบำรุงสุขภาพ เช่น นำไปตุ๋นรวมกับเป็ด และไก่ ในทางเภสัชวิทยา ถั่งเช่ามีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลายประการ เช่น เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ลดระดับน้ำตาลในเลือด สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่สำคัญและนิยมใช้เป็นตัวบอกคุณภาพและกำหนดราคา คือ สารคอร์ไดเซพิน (Cordycepin) ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศชาย บำรุงไต (อ้างอิงที่ 1-4)

ในด้านส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศชาย มีงานวิจัยเชิงทดลองแบบมีกลุ่มควบคุม (double blind, placebo-controlled clinical trial)

กับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องความรู้สึกทางเพศลดลง (hyposexuality) พบว่าในกลุ่มที่ใช้ถั่งเช่า 3 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 40 วัน จำนวน 159 คน ให้ผลดีในเรื่องนี้ 64.1% และยังมีอีก 2 การทดลองทางคลีนิคกับผู้ป่วยที่มีปัญหาความรู้สึกทางเพศลดลงก็ให้ผลไปในทางเดียวกันโดยพบว่า การทดลองแรกในกลุ่มที่ใช้ถั่งเช่าจำนวน 189 คน ให้ผลดีในเรื่องนี้ 66.1% ส่วนอีกการทดลองพบว่า กลุ่มที่ใช้ถั่งเช่า 144 คน ให้ผลดีขึ้น 65.3 % (อ้างอิงที่ 4)

ในการศึกษาการใช้ถั่งเช่ากับกลุ่มผู้ชายที่มีปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัว จำนวน 22 คน (male patients with impotence)

พบว่ามากกว่าหนึ่งในสามสามารถที่จะกลับมามีเพศสัมพันธ์ได้ อีกการทดลองหนึ่งทดลองกับกลุ่มผู้ชายที่มีปัญหาเดียวกัน จำนวน 28 คน พบว่าให้ผลดีขึ้น 64.3%

มีการศึกษาผลของถั่งเช่า ที่มีต่อสเปริม์ด้วย โดยมีรายงานว่าสามารถเพิ่มจำนวนสเปิร์มในอสุจิได้ 33% ช่วยลดปริมาณสเปิร์มที่ผิดปกติลงได้

29% และมีอัตราการรอดของสเปิร์มสูงขึ้น 79% (อ้างอิงที่ 4)

ในด้านสรรพคุณบำรุงร่างกาย มีรายงานศึกษาวิจัยเชิงทดลองแบบมีกลุ่มควบคุม (double blind, placebo-controlled clinical trial)

ว่า ช่วยเพิ่มพลัง ลดอาการเหนื่อยล้า โดยมีการศึกษาทางคลีนิคในการใช้ถั่งเช่า 3 กรัม ต่อวัน กับผู้สูงอายุและมีอาการต่างๆที่เกิดจากความชรา พบว่า ลดอาการเหนื่อยล้าได้ถึง 92% สามารถทนต่อความหนาวได้ดีขึ้น 89% ลดอาการหน้ามืดตาลายได้ 83% ลดอาการหูอื้อได้ 79% ลดความถี่ของการปวดปัสสาวะตอนกลางคืนได้ 59% (อ้างอิงที่ 4)

เอกสารอ้างอิง
1. The Economics and Sustainability of Cordyceps Harvest in Tibet, American Botanical Council, HC 020492-380
2. บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน “ถั่งเช่า” ช่วยเพิ่มสมรรถภาพ จริงหรือ?, สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/153/ถั่งเช่า-ช่วยเพิ่มสมรรถภาพ-ได้จริงหรือ/
3. ถั่งเช่า: อิทธิฤทธิ์หญ้า (หนอน) เทวดา, ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะอุตสาหกรรมเกษตร ม.เกษตรศาสตร์, สรรสาระเทคโนโลยีชีวภาพ/เดือนตุลาคม 2554
4. The scientific rediscovery of an ancient Chinese herbal medicine: Cordyceps sinensis: part I, J Altern Complement Med. 1998 Fall;4(3):289-303
5. Adaptogenic Medicinal Fungus Appears Promising, American Botanical Council, HC 061192

วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2558

ชาขาว, ชาเขียว, ชาอู่หลง และชาดำ (ผลิตภัณฑ์ใหม่กิฟฟารีน 2015)

พฤกษะ ฉะ 

มอบคุณค่าจาก สมุนไพร 12 ชนิด และชา 4 ชนิด ให้กลิ่นรสจากธรรมชาติของสมุนไพร



จตุฉะ เนเจอรัล 

ชา 4 ชนิด (ชาขาว, ชาเขียว, ชาอู่หลง และชาดำ ) ผสมใบหม่อนรสธรรมชาติ ปราศจากสารให้ความหวาน

จตุฉะ ครีมเมอร์ 

ชา 4 ชนิด (ชาขาว, ชาเขียว, ชาอู่หลง และชาดำ ) ผสมใบหม่อน หอมอร่อยด้วยครีมเทียม และซูคราโลส (สารให้ความหวานแทนน้ำตาล)


ทวิฉะ 

เครื่องดื่มชาดำและชาเขียว ผสมเวย์โปรตีน คอลลาเจน และใยอาหาร ให้โปรตีนสูง ใยอาหารสูง



สาระน่ารู้

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับมัทฉะ
มัทฉะ คือ ชาเขียวนั่นเอง มีชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Camellia sinensis เพียงแต่ ว่า มัทฉะเป็นผงบดละเอียดของชาเขียวชนิดที่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ คือ อยู่ในที่ร่มได้รับการเก็บเกี่ยวและทำให้แก้งอย่างดีทำให้มีรสชาติหวานหอมอร่อยพิเศษสุด ชาทำนองนี้มีหลายชนิด ทุกชนิดจะได้รับจากการปลูกแบบประคบประ หงมภายในร่ม ก่อนที่จะเก็บเกี่ยว เพื่อให้ได้กลิ่นและรสที่ดีที่สุด




กล่าวคือ หลังจากที่ใบชาเริ่มแตกยอดนั้นจะไม่ให้ยอดใบชาถูกแสงแดด ทำให้ชะลอการเติบโตของใบชา เป็นผลทำให้ใบชามีสีเขียวเข้มขึ้น มีการสร้างกรดอะมิโนซึ่งทำให้ใบชามีรสหวานขึ้น แล้วเลือกเก็บเกี่ยวเฉพาะใบชาที่ดีที่สุดด้วยมือ หลังจากนั้นแล้วถ้าใบชามีลักษณะที่ม้วนงอ ก็จะ ถูกจัดเกรดเป็น เคียวกูโระ Gyokuro เป็นชาเขียวญี่ปุ่นที่ถือได้ว่าเป็นชาชั้นสูงที่สุดถ้า ใบชาไม่ม้วนงอ แต่แผ่อออกคล้ายแป้ง มีสีเขียวอ่อนๆ จึงจะเป็นชาที่เรียกว่า มัทฉะ ดังนั้น เมื่อพูดถึงมัทฉะแล้ว ก็จะหมายถึง ใบชาญี่ปุ่นชั้นดีที่บดละเอียด และเป็นชา ที่ถูกนำไปใช้ในพิธีชงชาของประเทศ ญี่ปุ่น มีพิธีการ อุปกรณ์ และวิธีชงที่เป็น เอกลักษณ์ เฉพาะตัว จากข้อมูลกระบวนการผลิตมัทฉะดังกล่าวมาแล้วนั้น จะเห็น ได้ว่ามัทฉะเป็นใบชาบดผง ซึ่งเมื่อนำมาใช้ในพิธีชงชา ก็จะใช้ผงมัทฉะมาละลายเลย ดังนั้น การดื่มมัทฉะจึงเป็นการรับประทานใยชาทั้งใบ ต่างจากการดื่มชาแบบอื่นที่จะใช้ใบชาชงกับน้ำร้อน แล้วดื่ม เฉพาะน้ำชา ส่วนกาชาก็จะถูกทิ้งไป ปัจจุบันนี้ได้มีการประยุกต์นำมามัทฉะมาทำเป็นเครื่องดื่มโดยทำเป็นผงมัทฉะบรรจุ อยู่ในซองเวลาจะได้รับประทานให้เทผงมัทฉะลงในขวดน้ำเปล่า หรือน้ำแร่ จากนั้น ก็เขย่า ให้ผงละลายจนเข้าดี แล้วก็จะได้ชาเขียวมัทฉะที่มีรสชาติและความหอมเฉพาะตัว รสชาติของมัทฉะจะเข้ม ขมเล็กน้อย(ขมแบบชา) มีกลิ่นหอมกว่าชาเขียว ทั่วไป มีสีขุ่น ไม่ใสเหมือนชาเขียวที่ได้จากการชงแบบอื่น เช่น ชงโดยใช้ถุงชา และมีตะกอนอยู่บ้าง นับได้ว่าเป็นอีกวิถีทางหนึ่งในการดื่มชาเขียวที่ง่าย สะดวก ได้ประโยชน์ จากชาเขียวทั้งหมด เนื่องจาก เป็นการรับประทานใบชาทั้งใบ อีกทั้งมีกลิ่นที่หอม รสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

คุณประโยชน์ของมัทฉะก็จะเหมือนใบชาทั่วไป ให้ประโยชน์แก่ร่างกายมากมาย หลายประการ โดยมีสารสำคัญที่ทำให้เกิดประโยชน์ (Active Health Component) ที่เรียกว่า โพลีฟีนอล หรือเรียกกันทั่วไปว่า คาเทซิน ( Catechins) ชึ่ง Catechins นี้ จะมีปริมาณ 3040 % ของส่วนที่เป็นของแข็งที่สามารถสกัดได้จากใบชาเขียวแห้ง (อ้างอิงที่1)

คาเทชินที่อยู่ในชาเขียวประกอบไปด้วย Epigallocatechin-.-gallate(EGCG) Epicatechi-.-gallate epicatechin epigallocatechin’ Gallocatechin Gallat and Catchin ในทั้งหมดนี้ สารที่มีมากที่สุดคือ Epigallocatechin-.-gallate หรือ อี จี ซี จี (EGCG) ขนาดใบชาเขียวแห้ง 1ซอง (1.5กรัมต่อซอง) จะให้ EGCG ประมาณ 35-110 mg (อ้างอิงที่2) EGCG นับได้ว่า เป็นสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าการรับประทานแครอท บรอคเคอรี ผักโขม และสตรอเบอรรี่ ในขนาดที่รับประทาน ในแต่ละมื้อ (อ้างอิงที่4) ซึ่งมีงานวิจัยรองรับมากมายถึงประโยชน์ของสาระสำคัญตัวนี้ อาทิเช่น


  • ช่วยลดความอ้วน
ด้วนกลไกของการกระตุ้นปฏิกิริยาออกซิ-เดชันของไขมัน มีรายงานวิจัยที่มีข้อมูลสนับสนุนว่า EGCG ช่วยเพิ่ม กระบวนการการเผาพลาญพลังงานของเนื้อเยื่อไขมัน และมีรายงาน การทดลองในคนแล้ว ว่าช่วยลดความอ้วนได้ (อ้างอิงที่5-8) นอกจากนี้มีงานวิจัยที่ทำในคนไทย ผู้ที่น้ำหนักเกินเป็น2กลุ่มได้รับสารสกัดชาเขียวและยาปลอม กลุ่มได้รับชาเขียวมีน้ำหนักน้อยกว่า 2.7.5.1และ 3.3 ก.ก.ใบสัปดาห์ที่4.8และ 12ของการวิจัย (อ้างอิงที่9)


  • ช่วยลดไขมันในเลือด
แม้จะลดไขมันในเลือดได้ไม่มากนัก แต่ก็มีงานวิจัยที่ดีรองรับสองงานวิจัย ในงานวิจัยแรกพบว่า เมื่อรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง การดื่มชาในปริมาณปานกลางหรือปริมาณมากร่วมด้วย จะลดปริมาณไขมันในเลือดชนิดไตรกลีเซอไรค์ลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ในช่วง 6ชั่วโมง หลังรับประทานอาหารและดื่มชา โดยลดการเพิ่มระดับ ของไขมันชนิดไตรกลีเซอรไรด์ ในเลือดได้ถึง 15.1-28.7% (อ้างอิงที่10) อีกงานวิจัยพบว่า ผู้ที่ดื่มชาประมาณสองถ้วยต่อวัน สามารถลดไขมันในเลือดชนิดโครเลสเตอรรอลลงได้ เล็กน้อย(119.9เป็น106.6 มก./ดล.) แต่ก็มีนัยสำคัญทางคลินิก (อ้างอิงที่ 11)


  • ช่วยโรคเส้นเลือดอุดตัน
มีรายงานวิจัยว่า สาระสำคัญในชาเขียวสามารถการหดเกร็งของเส้นเลือดฝอยลดการเกิดตะกอน (Plaque) ในเส้นเลือดฝอย ทำให้ลดอุบัติการณ์ ของโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด (Myocardial inflation) และอัมพฤกษ์ อัมพาต จาก เส้นเลือดตีบตัน (อ้างอิงที่12-16) นอกจากนี้ EGCG ยังเป็นตัวยับยั้งการเกิดการ สันดาป Oxidation ของโคเลสเตอรรอล ทำให้ลดการเกิดการสะสมสร้างตะกอน ในเส้นเลือดจากโคเรสเตอรรอล ทำให้ลดการเกิดเส้นเลือดแข็งตัวตีบตัน และลดอุบัติการณ์ของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ(Coronary Athero sclerosis) (อ้างอิงที่17-19)ในงานวิจัยในสัตว์ทดลองยังลดการเกิดเส้นเลือดในปอดตีบตัน( pulmonary thrombosis) อีกด้วย (อ้างอิงที่15) ส่งให้เป็นผลดีต่อสุขภาพของ หลอดเลือดหัวใจ ไม่นานนี้มีงานวิจัยทางระบาดวิทยาในคนญี่ปุ่น พบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียว จะลดการเกิดโรคเส้นเลือดทางสมอง ทั้งโรคเส้นโลหิตในสมองแตก (Cerebral hemorrhahe) และเส้นเลือดสมองตีบ ได้จริง (อ้างอิงที่20)


  • ต่อต้านอนุมูลอิสระและต่อต้านมะเร็ง ( Antioxidant and anticancer)
ชาเขียวมีผลต่อการยับยั้งการเกิดมะเร็ง ได้หลายชนิดทั้งในคนและสัตว์ เพราะมี ฤทธิ์ทางด้านการต้านอนุมลอิสระอย่างมาก จากการวิเคราะห์ งานวิจัยที่เชื่อถือได้ของ Cochrane database ตีพิมพ์ล่าสุด จำนวน 51 งานวิจัยทั่วโลก แม้จะมีจำนวนงาน วิจัยที่จำกัด พบว่าการดื่มชาเขียวลดอุบัติการณ์เกิดมะเร็งหลายชนิด เช่นมะเร็งตับ มะเร๊งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็ง ลำไส้ และมะเร็งตับอ่อน (อ้างอิงที่21)


  • ข้อห้ามหรือข้อควจระวังของมัทฉะ
เนื่องจากมัทฉะ เป็นชาที่บดจากใยชาโดยตรง จึงยังตงมีคาเฟอีนได้เล็กน้อย คล้ายกับกาแฟ ข้อห้ามจึงคล้ายกับกาแฟ คือผู้ที่ทานกาแฟแล้วใจสั่น นอนไม่รับ ก็ไม่ควจรับประทานมัทและ ผู้ที่เป็นโรคหัวใจชนิดที่มีหัวใจเต้นเร๊ว และโรคไทรอยด์ เป็นพิษ ในระยะที่ยังคุมไม่ได้และมีใจสั่นหัวใจเต้นเร๊ว ก็ไม่ควจรับประทานน้ำชา กาแฟ รวมทั้งมัทฉะเช่นกัน


เอกสารอ้างอิง
1. The growth Factor, Vol. No. 3/03 –Meita (P) No. 214 / 04 / 2002 ; A Publication of Roche Vitamins Asia Pacific Pte Ltd.
2. Catechins in Green Tea, TEAVIGO TM Roche Vitamins Ltd, data no file
3. Antloxidant chemistry of green tea catechins, Idenfiflcation of products of the reaction of (-) eplgollocotechin gollote with peroxyl radicals 1999 Apr;12(4):382-6.
5. TEAVIGO and modulation of obesity, EGCG attenuates body fat occumulation, TEAVIGO TM Roche Vitamins Ltd, data on file
6. Effcocy of a green tea extract rich in catechin polyphenols and caffeine in increasing 24-h energy expenditure and fat oxldation in humans 1999 Kec;70(6): 1040-5.
7. Green tea and thermogenesis: interactions between catechin-polyphenols. Caffeine and sympathetic activity, Int J Obes Reslt Metob Disord. 2000 Feb;24(2):252-8
8. Anit-obesity effect of tea catechins in humans, j Oleo Scl 2001;50:599-605.
9. Effectiveness of greentea on welght redeution in obese Thais: A randomized, controlled trial.Physlol Benav, 2008 Feb 27;93(3):486-91, Epub 2007 Oct 18.
10. Effect of tea catechins on postprandlol plasma lipld responses in humon subjects, br J Nutr, 2005 Apr;93(4):543-7.
11. Effectiveness of noderate green tea consumption on antioxidative status and plasma llpid profile in humans, J Nutr Biochem, 2005 Mar;16(3):144-9
12. Tea fiavonlods and cardlovasculor dlseases : a review. Crit Rev Food Sci Nutr 1997;37:771-785
13. Inhibitory effects of puritied green tea epicatechins on contraction of arterial smooth muscle cells. Acta Phamacol Sin 2000;21(9):835-840
14. Tea catechins prevent the development of artheroscleroses ln apoprotein E-deficient mice. J Nutr 2001;131:27-32
15. Antithrombotic octivities of green tea catechins and (-)-Eplgallocatechins Gallate. Thromb Res 1999;96:229-237
16. Possible contrlbution of green tea drinkinghabits to the prevention of stioke. Tohulu J Exp Med 1989;157:337-343
17. TEAVIGO and cardlovascular health, A potent antlox don’t and antiotterogenic ogent TEAVIGO TM Roche Vitamins Ltd. Data on file
18. Tea catechins inhibit cholesterol oxidation accomparying oxidation of low density llpoprotein invitro. Comp Blochem Physiol Part C 2001 Feb;128(2):153-64
19. Relationship between green tea consumption and the severity of coronary atherosclerosis among Japanese men and women. Ann Epidemiol 2000;10:401-408
20. Consumption of green and roasted teas and the risk of stroke incldence:resuits from the Tadamachi-Nakasato cohort study in Japan int J Epidemlol. 2008 Oct;37(5):1030-40
21. Green tea (Camellla sinenses) For the prevention of cancer. Cochrane Database Syst Rev. 2009 Jul 8:(3) CD005004
22. Matcha,From Wlkipedia, the free encyclopedia.http://en.wilipedla.org/wiki/matcha
23. Green Tea. From Wikpedia.the free encyclopedia http://en.wikipedio.org/eiki/Green_tea
24. ชาญี่ปุ่น โครงการบริการอาคารสถานที่ สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ http://www.asia.tu.ac.th/leas/leas_buiding4.htm

วิตามินบำรุงสายตา LZvit Plus A เอลซี วิต เอ พลัส

วิตามินบำรุงสายตา LZvit Plus A เอลซี วิท เอ พลัส


สารลูทีน ซีแซนทีน มีในแครอท ข้าวโพด ฟักทอง
  1. ช่วยลดความเสี่ยงโรคต้อกระจก โรคจอตาเสื่อม
  2. ป้องกันเลนซ์ตา จอตาเสื่อม เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น
  3. ช่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ
  4. มะเร็งเต้านม
  5. โรคเบาหวาน ความดันลูกในตา


ใครบ้างที่ควรได้รับลูทีน และซีแซนทีน
     เด็กวัยเรียนและวัยเจริญเติบโต ผู้ที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ผู้ที่ไม่ชอบรับประทานผัก และผลไม้ ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจกและโรคจอรับภาพตาเสื่อม ผู้ที่ใช้สายตามากๆ เป็นเวลาต่อเนื่อง เช่น อ่านหนังสือหรือขับรถนานๆ ผู้ที่อยู่กับแสงสว่างจ้ากลางแดด ผู้ที่โดนแฟลซ

ลูทีนและซีแซนทีน กับโรคต้อกระจก

     เป็นสารธรรมชาติที่มีในพืชผักผลไม้หลายชนิดเช่นข้าวโพด แครอท ฟักทอง ผักกาด ผักปวยเล็ง คะน้า ผักขม เป็นสารตระกูลสารเคโรธีนอยด์ และพบได้ในบริเวณจุดรับภาพดวงตา สารทั้งสองชนิดทำหน้าที่ช่วยกรองหรือป้องกันรังสีจากแสงแดดที่เป็นอัตรายต่อดวงตา และช่วยปกป้องเซลล์จอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลายโดยการลดสารอนุมูลอิสระ ทำหน้าที่บำรุงสายตา ทำให้จอตาไม่เสื่อมเร็ว การบริโภคพืชผักที่มีลูทีนและซีแซนทีนหรือแม้แต่อาหารสุขภาพที่มีสารสำคัญนี้ จึงมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อสุขภาพดวงตา มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลายชนิดด้วยกัน ที่สำคัญคือ โรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อม

       - โรคต้อกระจก คือภาวะที่กระจกตาหรือเลนส์ตาขุ่น ทำให้แสงไม่สามารถผ่านเข้าไปในตาได้ตามปกติ ต้อกระจกไม่ใช่โรคติดต่ออาการขุ่นจะเป็นอย่างช้าๆรักษาได้ด้วยการผ่าตัด สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความเสื่อมตามวัย และการขาดสารอาหาร หรือผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน

       - โรคจุดรับภาพเสื่อม เกิดจากการเสื่อมของจุดรับภาพ (Macular) ซึ่งเป็นกลางจอตา (Retina) ทำให้การมองภาพเบลอบิดเบี้ยว บางครั้งอาจรุนแรงขนาดเห็นจุดดำบาบังภาพตลอดเวลา

        สารอาหารที่มีข้อมูลสนับสนุนว่ามีความสัมพันธ์กับโรคตา คือ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี รวมถึงลูทีนและซีแซนทีนที่มีงานวิจัยอย่างกว้างขวางว่ามีประโยชน์กับดวงตาโดยตรง คือ ลูทีน(Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)





           ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล
           ลูทีน 20 %                       6.351%    (15.75 มก.)   ให้ลูทน 3.15 มก.
           ซีแซนทีน 20 %               6.351%    (15.75 มก.)   ให้ซีแซนทีน 3.15 มก.
           วิตามิน เอ แพลมิเทต      0.537%    (1.332 มก.)   ให้วิตามินเอ 1332 หน่วยสากล) 1,000,000 หน่วยสากล/กรัม

           วิธีรับประทาน วันละ 1-2 แคปซูล พร้อมอาหาร   ไม่ใช้วัตถุกันเสีย/เจือสีธรรมชาติ

           ผลิตภัณฑ์นี้ใช้ ลูทีน และ ซีแซนทีน ซึ่งเป็นวัตถุดิบจาก DSM NUTRITIONAL PRODUCTS ประเทศสวิตเซอร์แลนด์



วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2558

ปัณจะ ภูตะ สมุนไพร 39ชนิด เครื่องดื่มน้ำสมุนไพร 100%

ปัณจะ ภูตะ สมุนไพร 39ชนิด เครื่องดื่มน้ำสมุนไพร 100%



เคล็ดลับหน้าเด็ก ... ของ
“ก้อง-สหรัถ”

"ปัณจะภูตะ" เครื่องดื่มน้ำสมุนไพร 100% 39 ชนิด ความลับของการผสมผสาน 3 ศาสตร์แห่งสมุนไพร "ไทย-จีน-อินเดีย" ช่วยปรับสมดุลของระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกาย --- ประโยชน์ดีๆ .. ที่ดื่มได้ทุกวัน


เครื่องดื่มสมุนไพร 39 ชนิด
         มะขามป้อม  สมอไทย  สมอภิเภท  สมอเทศ  กระวานเทศ  อบเชย  จันทน์เทศ  กานพลู  ผักชีล้อม  ดอกคำฝอย  ดอกเก๊กฮวย  ดอกอัญชัน  ดอกกุหลาย  กระเจี๊ยบแดง  บัวบก  เตยหอม  พลูคาว  หญ้าลิ้นงู(จัวจิเชา)  สะระแหน่   เจียวกู่หลาน   หม่อน   ขิง  กระชายดำ   เง็กเต๊ก  แปะตุณก  ตะใคร้  ตังเซียม  ตังกุย  หญ้าคา(ฮวงซาง)  บัวหลวง  ชะเอมเทศ  เสกตี่  โสมเกาหลี  หล่อฮังก้วย  เก๋ากี้  เห็ดหลินจือ   ถั่งเฉ้า(หญ้าหนอน)




ชนิดของสมุนไพร บำรุง ป้องกัน บำบัด รักษา


  1. มะเร็จ ป้องกันมะเร็จ, ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง,ฆ่าเซลล์มะเร็จ, ป้องกันการแพร่การะจายของเซลล์มะเร็จ
  2. เบาหวาน ป้องกันเบาหวาน, ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยในอินซูลินออกฤทธิ์ได้ดียิ่งขึ้น, ป้องกันภาวะแทรกซ้อนของเบาหวาน
  3. ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ, อัมพฤกษ์, อัมพาต, ลดความดันโลหิต, ขยายหลอดเลือด, ลดความหนืดของเลือด, ลดการอักเสบของผนังหลอดเลือด, ลดไขมันในเลือด
  4. ระบบฮอร์โมนสตรี สร้างสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง, บำรุงเลือด, ปรับสมดุลของเลือดลม
  5. สุขอนามัยของสตรี แก้ปวดประจำเดือน, บำรุงมดลูกและรังไข่, กระชับช่องคลอด, ระงับอาการตกขาว, ขจัดเชื้อและระงับการอักเสบในช่องคลอด และปอกมดลูก, ช่วยขับประจำเดือน, ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติทั้งตรงเวลา และปริมาณพอเหมาะ, ป้องกันและกำจัดมะเร็จของปากมดลูก, รังไข่, เต้านม, สร้างความชุ่มชื้นให้ช่องคลอง
  6. วัยทอง ปรับสมดุลของระบบประสาทอัตโนมัติ, ลดอาการวูบวาบตามตัว, ควบคุมอารมณ์และลดความงุดหงิด
  7. ผิวขาวสวย อ่อนกว่าวัย ลดการสร้างเม็ดสี, ป้องกันแสงแดด, กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไฟเบอร์, ต้านอนุมูลอิสระ, ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง
  8. ลดน้ำหนัก เพิ่มการเผาพลาญไขมัน, เร่งการเผาพลาญแป้ง, ยับยั้งการเปลี่ยนแป้งเป็นไขมัน
  9. ขจัดสารพิษ ปกป้องอวัยวะจากการทำลายของอาหารพิษ ขจัดสารพิษจากเลือด, ฟอกเลือดให้บริสุทธิ์, ปกป้องตับ, ไต, สมอง, หัวใจ, ตา, หลอดเลือด ฯลฯ จากการทำลายของสารพิษ
  10. เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ช่วยในการแข็งตัวของอวัยวะเพศ, บำรุงกำหนัด, เพิ่มความกระตือรือร้นและเพิ่มความสุขในการมีเพศสัมพันธ์
  11. ระบบทางเดินหายใจ ระงับไอ ขับเสหะ, บำบัดอาการภูมิแพ้ของทางเดินหายใจ ขจัดเชื้อโรคในช่องปาก, คอ และหลอดลม, บำรุงเยื่อบุในระบบทางเดินหายใจ, ป้องกันฟันผุ, ระงับกลิ่นปาก
  12. ภูมิแพ้ ปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย, ลดความไวของเม็ดเลือดขาวต่อสิ่งกระตุ้น,ลดการอักเสบและลดอาการกรณีเกิดการแพ้
  13. ขจัดเชื้อเอดส์ เสริมภูมิต้านทาน ยับยั้งการแบ่งของเชื้อ HIV, เพิ่มประสิทธิภาพของเม็ดเลือดขาวในการทำลายเชื้อ HIV, เพิ่มการสร้างโปรตีนชนิดอิมมูโนโกบูลิน(Immunoglobulin)  เพื่อการทำลายเชื้อ HIV
  14. ระบบทางเดินอาหาร และตับ แก้ท้องอืด, ท้องเฟ้อ, อาหารไม่ย่อย, ท้องผูก, ท้องเสีย, คลืนไส้, อาเจียน, ฆ่าเชื้อโรคในระบบทางเดินอาหาร, รักษาแผลในระบบทางเดินอาหาร และลำไส้บำรุงธาตุในระบบทางเดินอาหาร, บำบัดริดสีดวงทวารบำรุงตับ, แก้อาการตัวเหลือง, อาการบวมจากโรคตับ
  15. ระบบทางเดินปัสสาวะ ขับปัสสาวะ, บำรุงไต, ลดบวม, ลดการรั่งของโปรตีนจากไต,ป้องกันและขจัดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ, ขจัดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ
  16. ระบบประสาท และสมอง ผ่อนคลาย, สลายความเครียด, ช่วยในการนอนหลับ, สร้างสมาธิ, เพิ่มความจำ, พัฒนาการเรียนรู้, บำรุงสมอง, สร้างความสดชื่น, ป้องกันสมองเสื่อม, ป้องกันอัลไซเมอร์
  17. อาการปวด, ไข้, อ่อนเพลีย ลดปวด, ลดไข้, เพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ และหัวใจ, ช่วยให้ไม่เหนื่อย, ไม่เพลีย



รหัส 83020 ขวดใหญ่ขนาดบรรจุ 700 cc ราคา 1,600 บาท

รหัส 83021 ขวดเล็กขนาดบรรจุ 200 cc ราคา 520 บาท




จัดส่งฟรีทั่วประเทศ เมื่อซื้อครบ 900 บาทขึ้นไป
ติดต่อ 081 9528 462 คุณโด๊น
รับสมัคร นักธุรกิจ นักลงทุน และตัวแทนจัดจำหน่าย